บทที่ 21 เหตุร้าย (150%)
“ถึงบู้บี้จะไม่เหลือใคร แต่เธอยังมีเรานะ เราสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆ บู้บี้ตลอดไป”
นลินนิภาเอ่ยบอกอย่างหนักแน่น ยังผลให้คนฟังนึกใจชื้นขึ้นมา ถึงแม้ว่าระยะนี้อีกฝ่ายจะหายตัวบ่อย ติดต่อยาก และไม่รู้ว่าพักที่ไหนแน่นอนก็ตาม หากแต่เพียงคำปลอบประโลมนั้นก็ทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างเท่าเดิม
“ขอบใจนะ เรารักนนนี่ที่สุด”
บูรณิมาเอ่ยด้วยความซึ้งใจ เวลานี้เธอไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าคำปลอบประโลมและกำลังใจ แต่ไม่คิดจะไปฟูมฟายเรียกร้องจากใคร ทว่าเมื่อเพื่อนรักหยิบยื่นในสิ่งที่กำลังโหยหาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีแรงใจขึ้นมา
“เราก็รักบู้บี้ ไว้ทำธุระเสร็จ เราจะรีบกลับไปหานะ”
นลินนิภาเอ่ยอย่างอ้อนๆ ตามสไตล์ จากนั้นก็วางสายไป ส่วนบูรณิมาก็ถือโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้นเป็นนานสองนาน เพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
คืนสุดท้ายของการฟังสวดอภิธรรม จบลงด้วยความเศร้าสลดหดหู่สุดหัวใจ บูรณิมากลับบ้านด้วยสภาพอิดโรย ใบหน้าซีดเผือดแทบไร้สีเลือด ตาบวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหน่วงหนักในระหว่างนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน เธอพยายามข่มกลั้นไม่แสดงท่าทีฟูมฟายเมื่ออยู่ในงาน หนำซ้ำยังกล้ำกลืนแทนที่ความโศกาอาดูรด้วยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา เพราะไม่อยากให้ใครต่อใครรู้สึกสมเพชเวทนา
ร่างกะปลกกะเปลี้ยตรงเข้าห้องนอน อาบน้ำชำระร่างกาย แล้วปีนขึ้นเตียง โดยไม่สนที่จะกินมื้อค่ำ ดีที่โรคกระเพาะไม่กำเริบ ทว่าพอหัวถึงหมอนเธอกลับนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาหลายตลบ บ้างยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ถอนหายใจเฮือกๆ ท่ามกลางความมืดมิด เพราะจิตใจว้าวุ่นไม่สงบ กว่าจะหลับได้ก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง
แล้วเธอก็ฝัน
‘แม่บี๋ โอ๋…โอ๋…น้า’
ร่ามกลมป้อมของผีน้อยขยับเข้ามากอดปลอบประโลม แล้วเช็ดน้ำตาให้ด้วยท่าทางไร้เดียงสา เพียงเท่านั้นก็ทำเอาบูรณิมาน้ำตาไหลพรากอีกครา ก่อนจะฝืนยิ้มให้เด็กน้อยทั้งน้ำตา
‘ดีจัง ที่มีเราอยู่’
เธอลูบหัวน้อยเบาๆ พร้อมพึมพำเสียงสั่นเครือ
‘นั่นไง เห็นความดีของหนูแล้วใช่ม้า…’
เจ้าก้อนนุ่มฟูยิ้มแก้มปริ ทำตาวิ้งๆ
‘อืม’
‘แม่บี๋ ไม่ต้องเศร้าไปหรอก เดี๋ยวแม่บี๋ก็ได้ไปอยู่กับปะป๊าแล้ว’
‘ไปอยู่?’
‘ช่าย’
ผีน้อยพยักหน้าหงึกหงัก นัยน์ตาเปล่งประกายวาววับ แล้วเอ่ยต่อ
‘ไปอยู่กับปะป๊า แล้วก็หนูงายยย…’
‘พี่จะไปอยู่กับเขาได้ยังไง เพ้อเจ้อใหญ่แล้วยายซาลาเปาเอ๊ย’
เธอบีบแก้มผีน้อยตัวป่วนผู้เคลมว่าตัวเองมาจากโลกอนาคต
‘ด้ายยยยจิ เชื่อหนู หนูรู้ หนูเห็น’
ตัวแสบเอ่ยอย่างจริงจัง พลางขยับไปนั่งกอดอก
‘อือ เชื่อก็ได้’
หญิงสาวเออออไปกับวิญญาณเด็กที่ช่างจินตนาการเป็นตุเป็นตะ เอาซะคนเขียนนิยายอย่างเธอถึงกับยอมแพ้ พลอตเรื่องสุดมหัศจรรย์พันลึกที่ยายตัวอวบมักมาพูดกรอกหูในฝัน
‘แต่…หลังจากนี้เราอาจไม่ได้เจอกันอีก’
เอ้า! อยู่ๆ เจ้าก้อนแป้งก็ตัดเข้าโหมดดราม่าซะงั้น
อยากจะถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วบอกกับอีกฝ่ายว่าไปผุดไปเกิดก็ดีอีหนูเอ๊ย แต่ใบหน้าง้ำๆ แถมนัยน์ตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาคลอเคล้าคู่นั้นกลับทำเอาเธอชะงัก หัวใจวูบโหวงเสียดื้อๆ
‘เราจะไปเกิดแล้วเหรอ’
‘ก็บอกแล้วงาย ว่าหนูไม่ใช่ผี หนูมาจากโลกอนาคต แต่มีกฎว่าถ้าหนูเจอแม่บี๋แล้ว หนูอาจจะไม่ได้มาหาแม่บี๋อีก’
เป็นครั้งแรกที่ผีน้อยยอมปริปากบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองยาวๆ
‘เจอ?’
‘ช่ายยยย’
หลังจากหัวหมุนเพราะคำพูดของอีกฝ่าย บูรณิมาก็เริ่มคิดไตร่ตรอง ก่อนจะเอ่ยออกมา
‘หมายถึงเจอในโลกความเป็นจริงงี้เหรอ?’
‘ช่ายแล้ว แม่บี๋ฉลาดที่ฉุด’
‘แอบมาก็ไม่ได้เหรอ’
‘ม่ายรู้’
เอ้า!
‘สรุปแล้ววันนี้เรามาลาพี่ใช่ไหม’
‘แม่บี๋เป็นแม่ ม่ายช่ายพี่’
เจ้าตัวกลมทำแก้มพองเถียงปากยื่น
แปลก! ที่การมาของผีน้อยตัวป่วนในคราวนี้ดูโตขึ้น หรือว่าเวลาในโลกหลังความตายกับเวลาในปัจจุบันต่างกัน เธอถึงได้รู้สึกว่าเจ้าเด็กตัวอวบนั่นดูโตขึ้นจริงๆ
‘เฮ้อ…แม่ก็แม่ ว่าแต่เรามาลาใช่ไหม’
‘ช่าย…ม้างงงงง คิดว่านะ’
เอ้า!
‘แต่วันหนึ่งหนูก็ต้องไปแหละ หนูคงอยู่กับแม่บี๋ตลอดไปไม่ได้ ที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ของหนู’
โอ๊ยยยย…พูดซะเหมือนผู้ใหญ่เลยเจ้าก้อนนิ่มเอ๊ย
‘แต่หนูไม่อยากไปอะ แม่จ๋าทำไงดี…’
เด็กน้อยตัวอวบเบ้ปากจิ้มลิ้มเอ่ยเสียงเครือ ตาแดงๆ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ท่าทางเศร้าจริงๆ ทำให้เธอสะเทือนใจ และหัวตาร้อนผ่าวอย่างหักห้ามไม่อยู่
วันหนึ่งจะไม่มีผีน้อยมาวอแวในฝันเธออีกแล้ว
แค่คิดก็วูบโหวงในอก
ทำไมทุกคนถึงทิ้งเธอไปหมดนะ ทั้งพ่อ ทั้งแม่ แถมยังผีน้อยตนนี้อีก แต่ก็ดีแล้วล่ะ ถึงวาระที่อีกฝ่ายจะไปเกิดเสียที เพราะการเป็นวิญญาณเร่ร่อนนั้นน่าเวทนายิ่งนัก
แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกใจหายได้มากมายเพียงนี้
ก็แค่ผีน้อยตนหนึ่ง เธอเผลอไปผูกพัน เผลอไปรักเข้า…อย่างนั้นหรือ
แต่จะว่าไปอีกฝ่ายก็อยู่กับเธอมาตั้งนาน มาเข้าฝันจนนับครั้งไม่ถ้วน จนเหมือนกลายเป็นส่วนเล็กๆ ในชีวิตไปเสียแล้ว ฉะนั้นไม่แปลกหรอกหากเธอจะรู้สึกโหวงๆ เมื่ออีกฝ่ายมาบอกลาเสียดื้อๆ
‘ถ้าวันหนึ่งหนูหายไปจริงๆ แม่บี๋จะคิดถึงหนูไหม’
‘คิดถึงสิ’
‘ดีจัง หนูรักแม่บี๋น้า ร้ากกกกกกก…แม่บี๋ที่สุด’
น้ำคำบอกรักไร้เดียงสาทำให้เธอจุกอกจนพูดไม่ออก หัวตาร้อนผ่าว
‘หนูจะรอแม่บี๋นะ รีบไปอยู่กับปะป๊าน้าาา…’
เอ่ยจบเด็กน้อยก็อันตรธานไป ทำเอาคนที่เอื้อมมือหวังจะไขว่คว้าร่างอวบมากอดสักครั้งเผื่อว่าจะไม่มีโอกาสนั้นถึงกับนิ่งค้าง จิตใจว้าวุ่นกระสับกระส่าย ที่สุดก็หลุดออกจากห้วงฝัน
